ศูนย์รวมอุปกรณ์ทำสวน & การเกษตร รับประกันสินค้าทุกชิ้น คืนสินค้าได้ภายใน7วัน
5 เทคนิคปูพลาสติกคลุมวัชพืชให้ทน ลมไม่ยก ใช้ได้นาน ไม่ต้องแก้ซ้ำ

การใช้ พลาสติกคลุมวัชพืช ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการควบคุมหญ้าในแปลงผักหรือสวนผลไม้ แต่หากปูไม่ดี ลมแรง ๆ อาจยกพลาสติกหลุดจากพื้น ทำให้ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำ เสียทั้งเวลาและแรงงาน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 เทคนิคสำคัญ ที่เกษตรกรมืออาชีพใช้จริง เพื่อให้พลาสติกคลุมวัชพืช แนบสนิท ทนลม ไม่ฉีกขาดง่าย พร้อมยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นหลายปี
✅ 1. ปรับหน้าดินให้เรียบและแน่นก่อนปู
ก่อนปูพลาสติก ควรเตรียมพื้นดินให้เรียบและแน่นด้วยการใช้คราดหรือเหล็กไถเล็ก ๆ เก็บก้อนหินหรือเศษไม้ เพราะพื้นดินที่ขรุขระจะทำให้พลาสติกเกิดรอยนูน พอลมพัดก็จะยกตัวง่ายขึ้น และอาจฉีกขาดเร็ว
✅ 2. เลือกพลาสติกที่มีน้ำหนักเหมาะสม
ควรเลือกพลาสติกที่มี น้ำหนักไม่น้อยกว่า 90 แกรม/ตารางเมตร เพราะน้ำหนักมากช่วยให้แนบพื้นได้ดีขึ้น เช่น พลาสติกคลุมวัชพืช SAFARI (90 แกรม/m²) ที่มีความหนาเฉลี่ย 285 ไมครอน เหมาะกับงานกลางแจ้ง และไม่ปลิวง่าย
✅ 3. ใช้หมุดตอกยึดทุกระยะ 1 เมตร
แนะนำให้ใช้หมุดพลาสติกหรือเหล็กตอกยึดทุกระยะ 1 เมตร (หรือถี่กว่านั้นถ้าลมแรงมาก) และเน้น ยึดบริเวณขอบพลาสติก เป็นพิเศษ โดยเฉพาะมุมทั้ง 4 มุม และจุดที่มีการเดินผ่านหรือรดน้ำบ่อย
💡 Tip: ถ้าไม่มีหมุดเฉพาะทาง สามารถใช้ตะปูยึดกับเศษไม้หรือหินทับไว้ก็ได้เช่นกัน
✅ 4. เว้นขอบไว้สำหรับพับซ้อนหรือกลบดิน
เมื่อปูพลาสติก ควรเว้นขอบข้างไว้ประมาณ 10–20 เซนติเมตร สำหรับ พับซ้อนหรือกลบดินทับ จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้พลาสติก และลดโอกาสลมพัดเข้าใต้แผ่นจนปลิวหลุด
✅ 5. เจาะรูพอดีต้น อย่าเว้นช่องโล่ง
ถ้าเจาะรูปลูกต้นไม้ ควร เจาะแค่พอดีกับต้นกล้า ไม่ควรเว้นช่องใหญ่เกินไป เพราะจะเป็นช่องทางให้อากาศเข้าและลมยกพลาสติกได้ ควรใช้มีดคัตเตอร์หรือกรรไกรตัดเฉพาะจุดที่จำเป็นเท่านั้น