สแลนกันแดด

ความหมายของเปอร์เซ็นต์กรองแสง

• ตาข่ายกรองแสง50% หมายถึง แสงแดดปริมาณ 100หน่วย ที่ส่องลงมา จะถูกกรองออกไป 50หน่วย และเหลือแสงที่ผ่านแสลนออกมาได้ 50หน่วย
• ตาข่ายกรองแสง60% หมายถึง แสงแดดปริมาณ 100หน่วย ที่ส่องลงมา จะถูกกรองออกไป 60หน่วย และเหลือแสงที่ผ่านแสลนออกมาได้ 40หน่วย
• ตาข่ายกรองแสง70% หมายถึง แสงแดดปริมาณ 100หน่วย ที่ส่องลงมา จะถูกกรองออกไป 70หน่วย และเหลือแสงที่ผ่านแสลนออกมาได้ 30หน่วย
• ตาข่ายกรองแสง80% หมายถึง แสงแดดปริมาณ 100หน่วย ที่ส่องลงมา จะถูกกรองออกไป 80หน่วย และเหลือแสงที่ผ่านแสลนออกมาได้ 20หน่วย

แล้วจะเลือกใช้สแลนแบบกรองแสงกี่เปอร์เซ็นต์ดี?

การเลือกเปอร์เซ็นต์ในการกรองแสงของสแลนก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของพืช กับช่วงอายุของพืชที่เราปลูก เช่น ในช่วงของการเพาะเมล็ด จนถึงช่วงอนุบาลกล้าก็ต้องใช้การกรองแสงมากหน่อยประมาณ 70% ถึง 80% และเมื่อต้นกล้ามีอายุมากขึ้น จนสามารถย้ายลงแปลงเพาะปลูกได้นั้น ปริมาณแสงที่ได้รับก็ต้องเพิ่มขึ้น เราอาจจะใช้กรองแสงแค่ประมาณ 50% ถึง 60% ก็เพียงพอต่อความต้องการของพืชแล้วล่ะครับ และหากว่าชนิดพืชที่ปลูกนั้น เป็นพืชจำพวกที่ไม่ชอบแสงจัด ต้องการร่มเงา อย่างเช่น กล้วยไม้ พืชกลุ่มนี้ไม่ต้องการแสงปริมาณมากๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องใช้กรองแสงในปริมาณที่สูงขึ้นซัก 80% ก็จะกำลังดี

สีของสแลน ที่มีทั้ง สีดำ และ สีเขียว และอื่นๆ แล้วเราควรจะใช้สีอะไรดีล่ะ?

ขอยกตัวอย่าง 2 สีที่มีความแตกต่างกัน คือสีดำ และสีเขียว สีดำจะไม่ไปตัดทอนค่าความยาวของคลื่นแสง แสงที่ลอดผ่านสแลนสีดำนั้น จะเป็นแสงขาวเหมือนที่เราเห็นทั่วไป แต่สแลนสีอื่นจะสะท้อนตัดทอนค่าความยาวของคลื่นแสงที่เป็นสีเดียวกับสีของสแลนนั้นออกไป และพืชก็ต้องการแสงสีน้ำเงินและแดงเป็นหลัก ซึ่งรวมอยู่ในแสงขาวอยู่แล้ว ถ้าแสงสีเหล่านี้ถูกตัดทอนออกไปก็จะมีผลต่อการสังเคราะห์แสง จนถึงการเจริญเติบโตของพืชค่ะ

สแลนสีเงิน ต่างจากสแลนสีอื่นๆ อย่างไร?

สแลนสีเทา-เงิน นิยมใช้แพร่หลายให้กลุ่มเกษตรเฉพาะทาง ปัจจุบันมีใช้กันหลากหลายกลุ่มเราจึงอยากอธิบายหลักการวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้นมีคุณสมบัติ เด่น ดังนี้

1. มีคุณสมบัติพิเศษช่วยพรางแสง โดยที่สีของแสงไม่ผิดเพี้ยน ไปจากแสงเดิม ต่างจากแสลนสีเขียวหรือสีน้ำเงิน(ฟ้า) ที่จะทำให้แสงผิดเพี้ยนไปจากสีเดิม ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของพืช
2. สามารถปล่อยแสงผ่านมากกว่าปกติ เช่น เส้นเทปความถี่เทียบเท่าสแลนกรองแสง 80% จะปล่อยแสงผ่านประมาณ 60% ซึ่งสแลนปกติจะปล่อยแสงผ่านเพียง 20% เท่านั้น ส่วนความร้อนจะถูกกักที่ตัวสแลน อากาศจึงไม่ร้อนมาก
3. การสะท้อนแสงของเส้นเทปสีเทา-เงิน ช่วยให้ความสว่างของแสงกระจายทั่วถึงกัน เช่น ในช่วงเช้าที่แสงแดดยังไม่เต็มที่ การสะท้อนของแสงจะช่วยให้จุดอื่นๆที่แสงแดดยังไปไม่ถึง ได้รับแสงเพิ่มขึ้น

ด้วยคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว สแลนสีเทา-เงิน จึงเหมาะกับพืชที่ต้องการแสง และต้องการอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก โดยนิยมใช้กันที่ความถี่เทียบเท่า 60% และ 80%

ตัวสแลนสามารถประยุกต์งานได้หลากหลาย เช่น เขตก่อสร้าง ที่สามารถพรางแสงคนภายนอกได้ดี และภายในก็ยังมีแสงเพียงพอในการทำงาน

ประโยชน์ของ สแลน หรือ ตาข่ายกรองแสง ยังช่วยในเรื่องของการลดความแรงตกกระทบของเม็ดฝนที่อาจจะทำให้ใบของพืชช้ำได้ และเวลาขึงสแลนควรจะขึงให้มันตึงที่สุดเท่าที่จะตึงได้ เพราะว่าการขึงให้ตึงนั้นมันจะช่วยป้องกันการกระพือได้ อีกอย่างคือลดการอุ้มน้ำ (น้ำขัง) เวลาเจอฝนตกได้

นิยมนำสแลนมาทำที่เป็นที่บังแสงแดด

สำหรับปลูกต้นไม้กล้วยไม้และพืชต่างๆ

เพื่อลดปริมาณแสงแดดและความร้อนที่จะมา

กระทบกับตัวพืชและต้นไม้

พืชจำพวกที่ไม่ชอบแสงจัด ต้องการร่มเงา อย่างเช่น กล้วยไม้

พืชกลุ่มนี้ไม่ต้องการแสงปริมาณมากๆ

เพราะฉะนั้น ต้องใช้กรองแสงในปริมาณที่สูงขึ้น เช่น 80%

ประเภทของสแลนกรองแสง

สำหรับประเภทของสแลนกรองแสงสามารถแบ่งได้หลากหลาย ทั้งการแบ่งจากรูปแบบการผลิต ประเภทการใช้งาน สีและการกรองแสง

1. สแลนกรองแสงแบบถัก สแลนแบบถักจะผลิตมาจากเม็ดพลาสติกโพลีเอททีลีนที่มีความหนาแน่นสูง ใช้กระบวนการผลิตโดยการถักเป็นเส้นลักษณะตาข่ายถี่ๆ ส่วนมากสแลนแบบถักตัวสแลนจะมีการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อเพิ่มความคงทนให้กับผลิตภัณฑ์ สแลนแบบถักจะมีน้ำหนักที่เบา ไม่ขาดง่าย แข็งแรง แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น
2. สแลนกรองแสงแบบทอ สแลนแบบทอผลิตมาจากพลาสติกโพลีเอททีลีน ความหนาแน่สูง ใช้กระบวนการทอในการผผลิต ทำให้หนักเบามากกว่าสแลนแบบถัก ทิ้งตัวดี มีความยืดหยุ่นสูง แต่ความแข็งแรงจะไม่เทียบเท่ากับตัวสแลนแบบถัก